Skip to content
CITTA Pool Logo
  • Stake
  • การ Stake เหรียญคืออะไร
  • Privacy Policy
  • About CITTA Pool
Cardano Update

Hydra Heads ก้าวแรกสู่ Hydra ฉบับเต็ม

  • February 4, 2022January 21, 2024

Hydra Head คือ protocol ชุดแรกที่มีความสำคัญมากกับ Cardano ในเรื่องของการ scale

แปลมาจาก https://iohk.io/en/blog/posts/2022/02/03/implementing-hydra-heads-the-first-step-towards-the-full-hydra-vision/

เราได้ทำการทดลองเชิงทฤษฎีแล้ว เราวางรากฐานสำหรับการ scale เพื่อรองรับการใช้งานได้หลากหลาย การรับปริมาณงานมากๆ ของ blockchain (Cardano) ตอนนี้ถึงเวลาแล้วสำหรับระบบที่เติบโตอย่างมั่นคงและการปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยเป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมที่สุดเพื่อรองรับและส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) ตอนนี้ Cardano อยู่ในขั้นต้นของ Basho Era ที่มีการใช้งาน Smart Contract แล้ว

Basho เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับขนาดและการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย โปรโตคอลตระกูล Hydra เป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับสิ่งนี้

Hydra คือชุดของโซลูชันเลเยอร์ 2 ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับความปลอดภัยเครือข่ายและความสามารถในการปรับขนาด เดิมทีเกิดขึ้นภายในงานของทีมวิจัย Ouroboros อันที่จริง Hydra ได้แยกเป็นอิสระตั้งแต่การตีพิมพ์ paper ครั้งแรก

Hydra ทำให้ได้ทรูพุตที่เพิ่มขึ้น มี latency ที่น้อยที่สุด และเป็นโซลูชันที่ประหยัดต้นทุนโดยไม่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ โปรโตคอล Hydra Head เริ่มเป็นรูปเป็นร่างในปี 2020 และตั้งแต่นั้นมาความคิดของเราก็พัฒนาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลอดการใช้งานในระยะเริ่มต้นและการพิสูจน์ขั้นตอนแนวคิด (Proof of Concept – PoC) จากแนวคิดเริ่มต้นนั้น โปรโตคอล Hydra Head ได้ตกผลึก และได้รับการพัฒนาต่อไปสู่การใช้งานที่มากขึ้นบน testnet MVP

เราได้เห็นความตื่นเต้นมากมาย ซึ่งมาพร้อมกับ misconception และ misunderstanding สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากแนวคิด มากกว่าการใช้โปรโตคอลจริงและบล็อกก่อนหน้าบางส่วนของเราอาจมีส่วนทำให้เกิดความเข้าใจผิดเหล่านี้ แต่โปรโตคอล Hydra Head ไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับการนำ SPO ไปใช้มากเท่ากับ ‘1 ล้าน TPS’ ทางทฤษฎีเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการอธิบายให้ดีขึ้น

ในบทความนี้ เรา – ทีมวิศวกรรมของ Hydra – ได้สรุปความก้าวหน้าในปัจจุบัน แนวทางของเรา และแผนงานในระยะใกล้และระยะยาวของเรา เราจะอธิบายความเข้าใจผิดบางอย่างให้กระจ่าง ชี้แจงประโยชน์และไตร่ตรองถึงความท้าทายในการพัฒนา

Hydra Head โดยสังเขป

มาทำความรู้จักกับ Hydra Heads อีกครั้ง ซึ่งไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับเลเยอร์เครือข่ายที่แข็งแกร่งระหว่าง peer และการทำงานร่วมกับ Cardano ledger เท่านั้น แต่ยังรวมถึง on-chain scripts (smart contracts) ที่ขับเคลื่อนวงจรชีวิตของ Hydra Head

Hydra Head เป็น isomorphic state channel ที่ปลอดภัยซึ่งพิสูจน์ได้ พูดง่ายๆ ก็คือ เป็น ledger ขนาดเล็กแบบ off-chain ที่จำกัดผู้เข้าร่วม มันทำงานคล้ายกันกับ ledger หลักบนเครือข่าย แต่มันจะเร็วกว่ามาก

สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจคือแชนเนลเป็นเส้นทางการสื่อสารระหว่าง 2 peer ขึ้นไป การเป็นส่วนหนึ่ง Hydra Head หมายถึงการเป็นหนึ่งใน peer เหล่านั้น ช่องการสื่อสารสร้างเครือข่ายแยกที่สามารถพัฒนาขนานกับเครือข่ายหลัก ในเครือข่ายทางเลือกเหล่านี้ ผู้เข้าร่วมจะปฏิบัติตาม concensus algorithm ที่แตกต่าง เรียบง่ายกว่า ทุกคนจำเป็นต้องยอมรับธุรกรรมทั้งหมดที่ไหลผ่าน ผลที่ตามมาก็คือ ในฐานะผู้เข้าร่วม “ฉันจะไม่เสียเงิน ซึ่งเป็นเงินที่ไม่ได้ตกลงไว้อย่างชัดเจนว่าจะเสีย ทำไมน่ะหรือ? เนื่องจากการทำธุรกรรมที่ถูกต้องต้องได้รับการอนุมัติจากฉันอย่างชัดเจน”

เมื่อตั้ง Hydra Head ผู้เข้าร่วมอาจลงเงินไว้ในเครือข่ายย่อย ซึ่งหมายถึงการย้ายเงินจาก on-chain ไปยัง script address ที่ล็อคไว้ภายใต้กฎเฉพาะของ script นั้น ตัว script ได้รับประกันการดำเนินการอย่างปลอดภัยแบบเดียวกับโปรโตคอล on-chain และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เข้าร่วมไม่สามารถโกงกันได้ อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมคนใดคนหนึ่งอาจตัดสินใจออกจาก Hydra Head โดยการปิดเมื่อใดก็ได้ ในกรณีนี้ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเดินจากไปพร้อมกับสถานะล่าสุดที่พวกเขาตกลงที่จะออฟไลน์บนเครือข่ายคู่ย่อย

ลองคิดว่า Heads เป็น ‘โต๊ะโป๊กเกอร์ส่วนตัว’ ที่ผู้เข้าร่วมนำชิปของตัวเองมา ผู้เข้าร่วมสามารถเล่นได้นานเท่าที่ต้องการ ถ้าใครไม่เล่น แสดงว่าเกมไม่คืบหน้า โดยผู้เข้าร่วมยังมีอิสระที่จะออกไปพร้อมกับชิปของพวกเขา หากทำเช่นนั้น เกมจะจบลงด้วยการกระจายความมั่งคั่ง ณ เวลานั้น

วงจรชีวิต Hydra Head (แบบง่าย)

เจ้ามือที่โต๊ะ (on-chain script) รับรองว่าผู้คนเล่นตามกฎและไม่โกง ในท้ายที่สุด มีชิปออกมามากพอ ๆ กับที่มีชิปเข้ามา อาจมีการแจกจ่ายไปมาระหว่างเกม แม้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นที่รู้กันนอกโต๊ะ แต่ผู้เข้าร่วมเท่านั้นที่รู้ประวัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างเกม

โปรโตคอลนี้เป็นหนึ่งในชุดโปรโตคอลทั้งหมดที่เรามักเรียกว่า ‘Hydra’ ความพยายามด้านวิศวกรรมในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่การนำโปรโตคอล Hydra Head ไปใช้ตามที่เผยแพร่ใน Hydra: Fast Isomorphic State-Channels โดย Chakravarty et al

ในช่วงปลายปี 2021 Maxim Jourenko, Mario Larangeira และ Keisuke Tanaka ได้ตีพิมพ์บทความต่อยอดของ Hydra Head ที่เรียกว่า Interhead Hydra: Two Heads are Better than One เอกสารนี้นิยามวิธีการเชื่อมต่อระหว่าง Heads สองหัวเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดการสร้างเครือข่ายของหัวไฮดราที่เชื่อมต่อถึงกันในระยะยาว ก่อนหน้านี้ มีการกล่าวถึงโปรโตคอลอื่นเช่น ‘Hydra Tail’ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นยังอยู่ระหว่างการวิจัย พร้อมกับแนวคิดใหม่ๆ ที่มาจากงานล่าสุดเกี่ยวกับโปรโตคอล Hydra Head

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Hydra

เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้เห็นความคิดเห็นมากมายที่กำหนดให้ Hydra เป็นสุดยอดโซลูชันสำหรับ Cardano scalability แน่นอนว่า Hydra Heads เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการสร้าง scalability layer สำหรับ Cardano สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ประโยชน์จากพลังของ Extended Unspent Transaction Output (EUTXO) model เพื่อเปิดใช้ทางสู่โซลูชันที่ซับซ้อนมากขึ้นไปอีก สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของเส้นทางเดินของ scalability แต่มันไม่ใช่ปลายทางสุดท้าย

ความสามารถในการปรับขนาดไม่ได้อยู่ที่หนึ่งล้าน TPS

ก่อนที่จะพูดถึงตัววัด scalability เรามาชี้แจงบางสิ่งเกี่ยวกับธุรกรรมต่อวินาที (TPS) กันก่อน ในบรรดาทั้งหมดที่มีอยู่ TPS น่าจะเป็นตัวชี้วัดที่มีความหมายน้อยที่สุดในวิธีการเปรียบเทียบ ธุรกรรมมีรูปร่างและขนาดต่างกัน แม้ว่ามันจะเป็นจริงสำหรับ Cardano แต่มันสำคัญมากเมื่อเปรียบเทียบระบบสองระบบที่แตกต่างกันสุดๆ

คิดถึงทางหลวงและยานพาหนะ สามารถดูจำนวน ‘ยานพาหนะต่อวินาที’ (VPS) ที่ทางหลวงสามารถรองรับระหว่างจุดสองจุดได้ หากไม่มีคำจำกัดความทั่วไปว่ายานพาหนะคืออะไร การเปรียบเทียบ 10 VPS กับ 100 VPS ก็ดูเหมือนจะไร้ความหมาย หากรถยนต์ 10 คันในตัวอย่างหมายถึงรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ควรเปรียบเทียบกับรถสกู๊ตเตอร์ 100 คันในแง่ของความสามารถในการจัดส่งหรือไม่ เช่นเดียวกับการทำธุรกรรม ธุรกรรมที่มี native assets หลายร้อยรายการนั้นไม่เหมือนกับการชำระ ADA ครั้งเดียวระหว่างคนสองคน

การใช้ TPS เป็นตัวชี้วัดภายในบริบทเดียวกัน (เช่น เพื่อเปรียบเทียบโหนด Cardano สองเวอร์ชัน) มีความหมาย แต่การใช้มันเปรียบเทียบระหว่างบล็อคเชนนั้นไม่ใช่

ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอแนะนำให้ดูไม่เฉพาะที่ปริมาณงาน แต่ยังรวมถึงความสมบูรณ์และการทำงานพร้อมกันเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการพิจารณาและหารือเกี่ยวกับความสามารถในการปรับขนาด:

  • throughput: ปริมาณของข้อมูลที่ประมวลผลโดยระบบในระยะเวลาที่กำหนด
  • finality: เวลาที่ใช้สำหรับผลของการกระทำบางอย่างจะไม่เปลี่ยนแปลง (immuntable) และเป็นจริงสำหรับทุกคนในระบบ
  • concurrency : ปริมาณงานที่ผู้กระทำแต่ละคนสามารถทำได้โดยไม่ขวาง/ขัดกัน

Hydra Heads ทำ finality ได้เกือบจะทันทีภายใน Head. กระบวนการเปิดและปิด Hydra Head อาจใช้เวลา 2-3 blocks แต่เมื่อสร้างแล้ว ธุรกรรมสามารถไหลผ่านผู้เข้าร่วมที่ทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจาก Hydra Heads ใช้ EUTXO model มันจึงสามารถประมวลผลธุรกรรมที่ไม่ขัดแย้งได้พร้อมๆ กัน ควบคู่ไปกับเครือข่ายที่ดี ช่วยให้สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสมที่สุด การจำลองครั้งแรกของโปรโตคอล Hydra Head ในปี 2020 ทำได้สูงถึง ‘1000 TPS’ ขณะนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการเปรียบเทียบการใช้งานจริงของ throughput และ finality

ข้อแม้ประการหนึ่ง: Hydra Head เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นในผู้เข้าร่วมกลุ่มเล็กๆ กลุ่มเหล่านี้จะเป็นอิสระในขั้นต้น ดังนั้น การดูผลรวมของตัวชี้วัดแต่ละรายการโดยรวมจะทำให้เข้าใจผิด เนื่องจากกลุ่มต่างๆ มีความเป็นอิสระและสามารถสร้างขึ้นอย่างอิสระได้ตามต้องการ จึงง่ายที่จะเข้าถึงตัวเลขใดๆ โดยเพียงแค่บวกตัวเลขเข้าด้วยกัน: สิบ หนึ่งพัน หนึ่งล้าน หนึ่งพันล้าน และอื่นๆ

ดังนั้น แม้ว่าโปรโตคอล Hydra Head เวอร์ชันแรกจะอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมกลุ่มเล็กๆ ขยายขนาดการรับส่งข้อมูลด้วยต้นทุนที่ต่ำ แต่ก็ไม่ได้เสนอวิธีแก้ปัญหาสำหรับการชำระเงินระหว่างผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค (ไมโคร) ระดับโลกหรือการขาย NFT ในทันที ทำไม? เนื่องจากฉันทามติภายใน Head ต้องการให้ผู้เข้าร่วมทุกคนตอบสนองต่อทุกธุรกรรม และหัวเดียวไม่สามารถปรับขนาดได้ไม่สิ้นสุดตามจำนวนผู้เข้าร่วม อย่างน้อยก็ไม่ใช่หากไม่มีความพยายามทางวิศวกรรมเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อระหว่างกันของ Hydra Heads เป็นการปูทางสำหรับเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นของผู้เข้าร่วม ซึ่งจะเปลี่ยน Heads ในพื้นที่ให้กลายเป็นเครือข่ายระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรากำลังมองหาแนวคิดอื่นๆ อีกหลายประการเพื่อให้โปรโตคอล Hydra Head ให้ใช้งานได้หลากหลายกว้างขวางยิ่งขึ้น

Use case และบทบาทของ SPOs

แล้ว Heads มีประโยชน์เมื่อไหร่? Hydra Heads เฉิดฉายเมื่อผู้เข้าร่วมกลุ่มเล็กๆ จำเป็นต้องประมวลผลการโต้ตอบอย่างรวดเร็วจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ลองนึกภาพ เช่น บริการ API แบบจ่ายตามการใช้งาน เครือข่ายส่วนตัวระหว่างธนาคารกับธนาคาร หรือการประมูลที่รวดเร็วระหว่างผู้ขายและผู้เสนอราคากลุ่มเล็กๆ กรณีการใช้งานมีมากมายหลายรูปแบบ บางคนอาจจะเปิดไว้นานหลายเดือนในขณะที่คนอื่นอาจสั้นกว่ามากและเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

การวิจัย Hydra ครั้งแรกของเราในปี 2020 ได้เสนอให้ SPOs เป็นผู้ดำเนินการรัน Hydra Head อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโปรโตคอล Hydra Head ได้รับการวิจัยและสร้างเพื่อเป็น proof of concept เราสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการเข้าใจผิดที่จะบอกว่ามีเพียง SPO เท่านั้นที่ควรเรียกใช้ Hydra Head เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำ ledger scalability ได้ อันที่จริง SPO ไม่มีส่วนได้เสียในการเปิด Heads ระหว่างกันโดยไม่มีเหตุผลในการทำธุรกรรม (เช่น การให้ทิปหรือการซื้อขาย NFT เป็นต้น) ในทางหนึ่ง SPO ก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ใช้โปรโตคอล Hydra Head พวกเขาสามารถเป็นผู้เข้าร่วมและเปิดกับ peer อื่นๆ ได้ ซึ่งจริงๆ ทุกคนที่สนใจก็สามารถทำได้เช่นกัน

เป็นที่ยอมรับว่า SPO นั้นดีในโครงสร้างพื้นฐานด้านปฏิบัติการ และอาจเป็นผู้ใช้กลุ่มแรกๆ ที่ใช้งานอินสแตนซ์ของโปรโตคอล Hydra Head อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้อนุญาตเฉพาะ SPO ที่เข้าร่วมเพื่อทำธุรกรรมระหว่างกัน ซึ่งจำกัดกรณีการใช้งานสำหรับ end users เฉพาะการออกแบบระบบเลเยอร์ 2 ขั้นสูงเท่านั้น เช่น โปรโตคอล Interhead Hydra ที่ต้องการตัวกลางในการเรียกใช้โครงสร้างพื้นฐานเพื่อประโยชน์ของ end user

อันที่จริง เราคาดว่าคนที่จะตั้ง Hydra Heads จะเป็นผู้ให้บริการ Hydra Heads as a service (HaaS) เราสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้โดยไม่ละทิ้งการดูแลเงินทุนโดยการเรียกใช้โครงสร้างพื้นฐานในนามของ end user ซึ่งโดยทั่วไปไม่มีผลประโยชน์หรือทักษะทางเทคนิคในการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว

ซึ่งคล้ายกับรูปแบบการดำเนินการในปัจจุบันของ light wallets และ light wallet ที่มีแนวโน้มว่าจะใช้ Hydra Heads ในระยะยาว ลองนึกภาพเครือข่ายที่ประกอบด้วยผู้ให้บริการ light wallet ชั้นนำภายในระบบนิเวศของ Cardano ผู้ให้บริการดังกล่าวสามารถอำนวยความสะดวกในการชำระเงินในทันทีและราคาถูกระหว่างผู้ใช้ของตน ในขณะเดียวกันก็ให้ความไว้วางใจโดยรวม

เรายังมองเห็นว่าบริการสำหรับนักพัฒนาและ DApp provider มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ให้บริการ Hydra Heads อันที่จริงนักพัฒนา DApp ต้องการการเข้าถึงข้อมูลบนเครือข่าย ด้วยเหตุนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์อาจใช้บริการออนไลน์ที่มีอินเทอร์เฟซที่เหมาะสม และโดยทั่วไปจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้งานรายเดือน Hydra Heads สามารถปรับปรุงกระบวนการนี้ ทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจที่มีการกระจายอำนาจมากขึ้นด้วยการเรียก API แบบจ่ายต่อการใช้งานระหว่างผู้ให้บริการและนักพัฒนา DApp

Roadmap

ในฐานะกลุ่มของโปรโตคอลที่จะส่งมอบเมื่อเวลาผ่านไป และจะเกี่ยวข้องกับการออกแบบระบบเลเยอร์ 2 ที่ละเอียดยิ่งขึ้นบนโปรโตคอล Hydra Head สิ่งสำคัญคือเราต้องมีส่วนร่วมกับนักพัฒนาของระบบนิเวศของ Cardano บ่อยๆ ไม่ใช่การเปิดตัวแบบเปรี้ยงปร้าง แต่เป็นการทะยอยปล่อยออกมา เราจำเป็นต้องเข้าใจความท้าทายของนักพัฒนา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตอบสนองความต้องการของพวกเขา และสุดท้ายต้องแน่ใจว่าเรากำลังสร้างสิ่งที่มีประโยชน์ นี่คือเหตุผลที่เรากำลังพัฒนา Hydra Head เป็นโปรเจ็กต์ GitHub แบบโอเพนซอร์ส โดยเริ่มจากการพิสูจน์แนวคิดในช่วงต้นปีที่แล้ว เราจึงเปิดตัวพรีวิวสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์เบื้องต้นในเดือนกันยายน (0.1.0) ตามด้วย (0.2.0) ก่อนคริสต์มาส การเพิ่มขึ้นครั้งต่อไป (0.3.0) กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เราปฏิบัติตามการกำหนดเวอร์ชันเชิงความหมายและแต่ละรุ่นก่อนเผยแพร่ (0.x.0) จะเพิ่ม feature ที่จะพร้อมใช้งานสำหรับคู่ค้าของเราและผู้ที่ใช้งานในช่วงต้นเพื่อทดสอบบน Cardano private และ public testnet

เรามีความยินดีที่จะประกาศว่าแผนงานของเราพร้อมใช้งานบน Github แล้ว! เพื่อเป็นแนวทางในการมีส่วนร่วมกับชุมชนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของเรา และเพื่อความโปร่งใสเกี่ยวกับความพยายามในการพัฒนา คุณจะพบ issue, feature, milestone และ project board ที่มีอยู่ใน Hydra Head repository

ในขณะที่เรามุ่งการออก version ใหม่ที่มีความหมาย มี feature เด่นๆ ทาง testnet และเข้าสู่ mainnet ในภายหลังด้วยเวอร์ชัน 1.0.0 แผนงานมี tentative date การคาดการณ์เหล่านี้เกิดจากทั้งงานที่ทำจนสำเร็จและประมาณการงานที่เหลืออยู่ข้างหน้า เราจะพิจารณาเนื้อหาและวันที่อย่างสม่ำเสมอในแนวทาง agile เพื่อให้แผนงานถูกต้องที่สุด

Knowledge

Cardano RealFi

  • December 5, 2021

TLDR: RealFi คือ DeFi ที่เพิ่มการะบุตัวตนเข้าไป

“The point of RealFi is to serve real people real finance, and thus be able to innovate and do interesting things.”

ประเด็นหลักของ RealFi คือ เพื่อให้บริการทางการเงินกับคนจริงๆ และสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และทำสิ่งที่น่าสนใจได้

Charles Hoskinson

เมื่อพูดถึงวิวัฒนาการล่าสุดของบล็อคเชน การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ได้เข้ามาเป็นจุดสนใจ DeFi ใช้ smart contract บนบล็อคเชน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบบริการทางการเงินสาธารณะ ที่มีระบบบัญชีแบบกระจายศูนย์ โดยการตัดตัวกลางออก ทั้งนักธนาคาร นายหน้า DeFi ทำให้ผู้ใช้งานหน้าใหม่เข้ามา และได้รับผลตอบแทนที่งดงาม ปัจจุบันมูลค่าของ DefI อยู่ที่ประมาณ 100 พันล้านดอลลาร์

DefI เป็นระบบเครือข่ายการเงินแบบเปิด ผู้คนไม่ต้องใช้บริการบริษัททางการเงินเอกชนอย่างเช่น PayPal, Western Union หรือธนาคาร ในการยืมหรือกู้เงิน แต่มันเป็นการทำในระดับบุคคลกับบุคคล เป็นแบบ peer-to-peer โดยใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนทำงานอยู่เบื่องหลัง

แนวคิดของ Defi เบื้องต้นนั้นฟังดูง่ายดี โดยปกติแล้วเงินกู้จะมีหลักประกันเต็มจำนวนหรือเกินหลักประกัน นี่เป็นเพราะว่าไม่มีใครรู้ว่าผู้ยืมเป็นใคร และแทบไม่มีไล่เบี้ยหากไม่ชำระเงินยืม นอกจากนี้การยืมมักเอาไปลงทุนต่อในตลาดคริปโตเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น การที่ผู้คนติดต่อกันโดยตรงโดยไม่มีตัวกลาง จึงพึ่งพา smart contract และความโปร่งใสและการไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ของบล็อคเชน ด้วยวิธีนี้ทำให้หลักการปกติในการควบคุมดูแลการกู้และยืม จึงนำมาบังคับใช้ไม่ได้

พูดถึงการนำ RealFi มาใช้งาน “พวกเราเชื่อว่าในอีก 12 ถึง 24 เดือน ผู้ให้บริการ DeFi จะอัพเกรดมาเป็น RealFi เป็นส่วนใหญ่ เพื่อขัดขวางการระบุตัวตนและ metadata จริง ๆ เพื่อสร้างมาตรฐานที่เหมาะสมและให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัยและใช้งานได้จริง และเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะแก้ไขปัญหาด้านกฎระเบียบและการกำกับดูแล และพวกเขายังอยู่ในตลาดสำหรับลูกค้าใหม่

Charles Hoskinson

ระบบเศรษฐกิจในหมู่ประเทศพัฒนาแล้ว DeFi แสดงให้เห็นศักยภาพของบล็อคเชนในการ disrupt การเงินในรูปแบบเดิม (legacy) และเปิดโอกาสให้ผู้คนใหม่ๆ เข้ามาสร้างผลกำไรที่ดีกว่าและช่วยให้เกิดการเคลื่อนย้ายสภาพคล่อง มันเป็นการสร้างระบบการเงินใหม่ ซึ่งจะโตขึ้นมากกว่า $100bn อีกมากหากมีการพัฒนาให้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยิ่ง DeFi สร้างตลาดและรูปแบบการใช้งานใหม่ที่น่าสนใจ มันก็ยิ่งแบ่งผู้คนที่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินกับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้

เชื่อมความแตกแยกของ DeFi

การกำหนดราคาเครดิตเป็นการพยายามประเมินและลดความเสี่ยงที่จะถูกผิดนัด การเงินและสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคแบบดั้งเดิมช่วยลดความเสี่ยงโดยการทำความเข้าใจว่าผู้กู้มีพฤติกรรมอย่างไร ใช้จ่ายเงิน รายได้ และอื่นๆ แนวทางการลดความเสี่ยงของ DeFi นั้นแตกต่างกัน

ระบบการให้คะแนนเครดิตที่แข็งแกร่งเป็นกุญแจสำคัญในการให้เครดิตในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่มันสำคัญยิ่งกว่าในตลาดเกิดใหม่ สาเหตุที่ธนาคารปฏิเสธการให้สินเชื่อหรือสินเชื่อในตลาดเกิดใหม่มักเป็นเพราะธนาคารมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับบุคคลหรือองค์กรที่ต้องการกู้ยืม ระบบมีความซับซ้อนน้อยกว่าหรือไม่มีเลย เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างภาพทางการเงินที่ถูกต้องผ่านคะแนนเครดิต

อย่างไรก็ตาม สามารถสร้างคะแนนเครดิตได้โดยการสอบถามผู้รับมอบฉันทะที่เชื่อมโยงกับข้อมูลบุคคล คุณสามารถติดต่อบริษัทสาธารณูปโภคเพื่อตรวจสอบว่าลูกค้าได้ชำระเงินตามใบแจ้งหนี้หรือไม่ หรือตรวจสอบกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เพื่อดูว่าผู้ขอกู้เติมเงินมือถือของตนบ่อยเพียงใด ข้อมูลประจำตัวอยู่ที่นั่น ปัญหาคือวิธีการผูกข้อมูลกับข้อมูลบุคคล เมื่อทำสำเร็จแล้ว ข้อมูลสามารถนำเสนอต่อธนาคารในท้องถิ่น โครงการไมโครไฟแนนซ์ หรือแหล่งเงินทุนที่กระจายอำนาจจากผู้คนทั่วโลกในชุมชน Cardano

ตอนนี้เรามาถึงจุดที่เราสามารถใช้งานสิ่งนี้ผ่านนวัตกรรมใน Crypto ข้อมูลทางการเงินที่จำเป็นทั้งหมดสามารถจัดเก็บและส่งต่อในลักษณะที่ตรวจสอบได้ผ่าน Atala PRISM ID ชิ้นส่วนโครงสร้างการเงินของ DeFi สามารถใช้ในการจัดโครงสร้างสินเชื่อเหล่านี้และป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่ scalable payment ให้บริการโดย Cardano และโซลูชันเลเยอร์ 2 ต่างๆ จะช่วยให้สามารถโอนเงินไปทั่วโลกโดยไม่ติดขัด

โลกนี้มี DeFi ตอนนี้มันต้องการ RealFi

ปีนี้เรา (IOHK) ได้ประกาศข้อตกลงบล็อคเชนที่สำคัญมากสองฉบับ ความร่วมมือของเรากับกระทรวงศึกษาธิการของเอธิโอเปียกำลังสร้างระบบบันทึกความสำเร็จระดับประเทศเพื่อตรวจสอบเกรด ตรวจสอบผลการปฏิบัติงานของโรงเรียน และส่งเสริมการศึกษาทั่วประเทศ ในขณะเดียวกัน ความร่วมมือของเรากับ World Mobile ในแทนซาเนียจะเชื่อมต่อสิ่งที่ไม่ได้เชื่อมต่อและทำให้สามารถเข้าถึงบริการออนไลน์ที่จำเป็นผ่านบล็อคเชน

ข้อตกลงที่ทรงพลังเช่นนี้เป็นจุดกระโดดสำหรับภารกิจของ Cardano ในการสร้าง “RealFi: การเงินที่แท้จริงมุ่งเป้าไปที่ผู้ที่ต้องการวิธีใหม่ๆ ในการเข้าถึงการเงิน สร้างมูลค่าที่แท้จริง ซึ่งมักหายไปจาก DeFi” RealFi เป็นระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยขจัดความขัดแย้งระหว่างสภาพคล่องของสกุลเงินดิจิทัลและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อมอบผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจแก่ผู้ถือสกุลเงินดิจิทัล และผลิตภัณฑ์สินเชื่อ/การเงินที่ถูกกว่าสำหรับคน

Cardano เพิ่มส่วนสุดท้ายของปริศนาทางการเงินด้วยการปลดล็อกมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แท้จริงที่ส่วนท้ายของห่วงโซ่การทำธุรกรรม: ข้อมูลประจำตัวบุคคล (personal identity)

ข้อมูลประจำตัวเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง เมื่อมีคนมีตัวตนทางเศรษฐกิจ โลกแห่งโอกาสและการไม่แบ่งแยกก็เปิดออก โอกาสที่แท้จริงมาพร้อมกับการเข้าถึงบริการที่จำเป็นซึ่งแต่ก่อนนี้ไกลเกินกว่าจะเอื้อมถึง และการเงินที่แท้จริง เช่น เงินกู้เพื่อเปิดธุรกิจหรือดำรงอยู่อย่างที่มีอยู่ RealFi

ข้อมูลประจำตัวสามารถกลายเป็นสินทรัพย์ได้ตราบเท่าที่สามารถใช้แทนหลักประกันได้ ความกังวลที่ครอบงำของผู้ให้กู้คือเพื่อให้แน่ใจว่าเงินกู้ยืม (บวกดอกเบี้ยใด ๆ ที่เกิดขึ้น) จะได้รับการชำระคืน วิธีหนึ่งในการบังคับใช้คือโดยการค้ำประกันเงินกู้ แต่ถ้าผู้ให้กู้มีข้อมูลเพียงพอและชัดเจนเกี่ยวกับผู้กู้ (หากรู้ว่าผู้กู้เป็นผู้มีรายได้สูงหรือเป็นลูกค้าที่มีอายุยืนยาว) ผู้ให้กู้อาจมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะ ลดหย่อนหลักประกัน

การย้อนหลับการยกเว้นทางการเงิน
แพลตฟอร์ม Microlending เช่น Kiva มีรูปแบบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เหมาะอย่างยิ่งกับเศรษฐกิจเกิดใหม่ของทวีปแอฟริกา ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เงินกู้ขนาดเล็กสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ที่มีแรงผลักดันในการสร้างและประสบความสำเร็จ

แต่การเข้าถึงการเงินเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวมเท่านั้น หากไม่มีบริการประกัน การศึกษา และบริการด้านสุขภาพ ผู้คนจะยังคงเผชิญกับความเสี่ยงมหาศาล RealFi ผ่านพลังของบล็อคเชนและแพลตฟอร์มระบุตัวตนดิจิทัลอย่าง Atala PRISM นำเสนอโซลูชั่นที่ครอบคลุมสำหรับปัญหาเหล่านี้ ข้อมูลประจำตัวดิจิทัลช่วยให้เข้าถึงไม่เฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริการที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเติบโตได้ในระดับเดียวกับคู่แข่งในส่วนที่พัฒนาแล้วของโลก

‘Cardano มองการเข้าสู่โลกกำลังพัฒนามาโดยตลอด เราต้องการมุ่งเน้นไปที่ 3 พันล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่เชื่อถือได้ หากเราดูตลาดมากมายที่เราเล่น เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะนำตลาดเหล่านั้นเข้ามาผ่านข้อมูลประจำตัวและผ่านกระเป๋าเงิน เข้าไปในพื้นที่ของสกุลเงินดิจิทัล จากนั้นให้พวกเขาเข้าถึง RealFi ดังนั้นเป็นครั้งแรกที่พวกเขา สามารถเข้าร่วมในตลาดโลกได้อย่างเป็นธรรม’

Charles Hoskinson

RealFi จะประกาศยุคใหม่ของกิจกรรมสินเชื่อออนไลน์ ปัจจุบันผู้ถือเหรียญ Cardano รวมมูลค่า 80 พันล้านดอลลาร์ และหลายๆ คนจะมองหาตัวเลือกผลตอบแทนเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ นอกเหนือไปจากการ stake

การใช้เงินแบบจับต้องได้ของ crypto ในโลกแห่งความเป็นจริง การจัดหาการเงินที่แท้จริงให้กับคนจริงๆ คือสวิตช์ที่จุดประกายพลังและเอกลักษณ์ของ Cardano นี่เป็นกรณีการใช้งานจริงที่หลายคนมองไม่เห็นใน cryptocurrencies

RealFi นับเป็นยุคใหม่ของกิจกรรมสินเชื่อออนไลน์ ด้วยข้อมูลประจำตัวที่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ใครบางคนในกรุงโรมอาจมีความมั่นใจในการให้เงินกู้ที่ไม่มีหลักประกันแก่ธุรกิจในเคนยา เป็นต้น

เพื่อเริ่มต้นเส้นทางนี้ IOHK ได้ร่วมมือกับ Pezesha เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้สินเชื่อแก่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่กำลังมองหาเงินกู้ระยะสั้นสำหรับเงินทุนหมุนเวียน เงินกู้เหล่านี้มีอัตราการผิดนัดชำระหนี้เพียง 2% แต่ประสบปัญหาในการรับเงินทุนในตลาดเคนยาเนื่องจากขาดสภาพคล่องในท้องถิ่น เป้าหมายคือการสร้างเครื่องมือง่ายๆ ที่ปราศจากการเสียดสี ซึ่งช่วยให้ผู้ถือสกุลเงินดิจิทัลสามารถให้ยืมโอกาสในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างราบรื่น โดยได้รับการชำระคืนเป็นสกุลเงินดิจิทัลโดยตรงไปยังกระเป๋าสตางค์ของตน เราเห็นโลกที่ผู้คนสามารถให้โอกาสในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างราบรื่นเหมือนกับที่พวกเขาทำคริปโต

RealFi: โอกาสในการสร้างประชาธิปไตย
RealFi แสดงถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการกีดกันทางการเงินและประกาศการมาถึงของยุคใหม่ของการรวมตัวทางการเงินและสังคมในแอฟริกาและที่อื่นๆ

ด้วย RealFi – Cardano กลายเป็นสัญญาณของการจัดเตรียมข้อมูลประจำตัวเพื่อช่วยให้ผู้คนช่วยเหลือตนเอง ภารกิจของ RealFi คือการสร้างมูลค่าทางการเงินที่แท้จริงให้กับคนจริงๆ และเป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Cardano และแพลตฟอร์มบล็อคเชนอื่นๆ

โครงการเอธิโอเปีย แทนซาเนีย และเคนยาเป็นก้าวแรกของการเดินทางที่ยาวนานกว่ามากสู่ความเป็นธรรมและความครอบคลุมในระดับโลก จุดเริ่มต้นของการผลักดันเพื่อยุติการกีดกันผู้ด้อยโอกาสในขณะที่ให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดแก่ผู้ถือสกุลเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับ DeFi RealFi จะเป็นระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ลดความขัดแย้งระหว่างสภาพคล่องของ Crypto และโอกาสทางเศรษฐกิจในโลกแห่งความเป็นจริง ด้วย RealFi เราต้องการทำให้โลกมีขนาดเล็กลง โดยเชื่อมโยงทุกคนเข้าสู่ชุมชนทุนระดับโลกและโอกาสที่ตอนนี้เปิดกว้างและยินดีต้อนรับพวกเขา

Source: https://iohk.io/en/blog/posts/2021/11/25/welcome-to-the-age-of-realfi/

Cardano Update

Cardano Status Update : 5 Nov 2021

  • November 6, 2021December 5, 2021

Daedalus

  • สัปดาห์นี้ทีม optimize ลำดับการเปิดโปรแกรมให้ดีขึ้นและ integrated LedgerJS
  • เริ่ม implement การลงทะเบียน Catalyst
  • เริ่มทำ mode “Discreet” ที่จะไม่แสดงยอด ADA รวมทั้ง Token และ transaction ใน wallet

Adrestia

  • ทีมยังจดจ่ออยู่กับการ integrated wallet backend กับ Plutus Application Backend (PAB)
  • ทีมทำงานเกี่ยวกับ e2e test automation เพิ่มขอบเขตของการ test และ optimize การคำนวณ fee
  • ทำ endppoint ใหม่เรียบร้อย โดยเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ unbalanced transaction ของคนที่ใช้งาน Daedalus

Networking

  • ทำ IPV6 support สำหรับการใช้งาน P2P ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นการรีวิว
  • ทำ fork counter
  • ทดสอบการจำลอง socket

DevOps

  • ทีมเตรียม release และ deploy node v1.31.0
  • ทำเกี่ยวกับ Nix Flake support
  • สร้าง Bitte Grafana เพื่อปรับปรุงการแจ้งเตือนให้ชัดเจนเข้าใจง่ายมากขึ้น
  • ทำเกี่ยวกับอาการ delay ของ dashboard ของ cardano-ops

Cardano Decentralization

  • เพิ่ม benchmarking memory usage อันใหม่เข้า repository ผลของการ benchmark จะทำให้ทีมสามารถ focus ไปยังเรื่องที่ต้องการปรับปรุงได้ดีขึ้น
  • ทำเรื่องการ share stake ระหว่าง snapshot ซึ่งจะเพิ่มการใช้พลังในการคำนวณการแจกจ่าย reward และทำให้มันมีรูปแบบที่เข้าใจง่ายมากขึ้น

Goguen

  • ทีม Plutus ทำเรื่องการ optimization ของ compiler เพื่อให้ script มีขนาดเล็กลงและทำการ benckmark เล็กๆ มีการแก้ไข Haddock และจัดการเปลี่ยนอะไรนิดหน่อย เพื่อให้ stack.yaml ไปด้วยกันกับ cabal.project
  • ทีม Marlowe ทำงานร่วมกับทีมสอน เพื่อวางแผน Marlowe Pioneers program และยังแก้ไข Marlowe Playground client และปรับปรุง Marlow Run ให้ดีขึ้น

ที่มา: https://roadmap.cardano.org/en/status-updates/update/2021-11-05/

Hydra - Scalability Solution for Cardano Knowledge

Hydra ทางออกเรื่อง Scalability ของ Cardano

  • September 19, 2021November 6, 2021

Alonzo ทำให้ Cardano มีความสามารถด้าน smart contract ด้าน DApps และการใช้งานด้านอื่นๆ Alonzo เป็นหลักหมุดสำคัญในการผจภัยของ Cardano ความสามารถในการเขียน script ระดับฐาน (base level scripting) ทำให้เราต่อยอดนวัตกรรมและพัฒนา network ไปอีกขั้น และยังเป็นการเริ่มต้นกระบวนการเปลี่ยนแปลง blockchain จากเรื่องของ transaction และ token ไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ การรวมเข้ากับการเงิน และการพัฒนาแบบกระจายศูนย์

หนึ่งในการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นที่สุดหลังจาก Alonzo คือ Hydra ซึ่งเป็นโซลูชันหลักสำหรับเลเยอร์ 2 (layer 2 solution) จะเป็นการพัฒนาความสามารถด้าน scalability ของ Cardano ไปอีกขั้น โดยเป็นเลเยอร์โปรโตคอลใหม่บนบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่มีอยู่

ในเครือข่ายบล็อกเชน กลไกการลงฉันทามติ (consensus algorithm) สร้างสภาวะความมั่นคงปลอดภัยและการไม่ไว้วางใจ (secure and trustless) ด้วยการรับรองข้อตกลงประวัติการทำธุรกรรม (block confirmation)

Cardano ใช้ Ouroboros ซึ่งเป็นกลไกการลงฉันทามติแบบ proof-of-stake ที่มีประสิทธิภาพเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่ Cardano ก็เหมือน permissionless blockchain อื่นๆ ที่ประสบกับความท้าทายเรื่องการขยายเพื่อรองรับปริมาณงาน (throughput) จากการใช้งานในโลกจริง ซึ่งก็คือระบบการจ่ายเงิน (payment) การยืนยันตัวตน (identification) เกม หรือบริการบนมือถือ ซึ่งต้องการการลงฉันทามติระดับภาพรวมในทุกธุรกรรม

ทุกธุรกรรมของ Cardano มีค่าธรรมเนียม (fee) คนที่รันเครือข่ายเช่น stake pool operator (SPO) ทั้งหลายต้องได้รับรางวัล (rewards) อย่างเหมาะสม ดังนั้นค่าธรรมเนียมต้องมากพอให้ SPO อยู่ได้อย่างยั่งยืน และผู้ใช้งานก็ต้องการจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราที่รับได้ ไม่แพงเกินไป นอกจากนี้บล็อกเชนต้องได้รับการป้องกันจากการโจมตีแบบ Denial-of-Service (DoS) ดังนั้นค่าธรรมเนียมต้องไม่ถูกจนเปิดความเสี่ยงต่อ DoS เกินควร คนที่จะทำ DoS จึงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแพงมากจนไม่คุ้มที่จะทำ เรื่องของ storage ก็ต้องคำนึงถึง เพราะธุรกรรมที่เกิดขึ้นตลอดเวลาทำให้ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเกิดปัญหาในที่สุด ดังนั้นบล็อกเชนที่ประสบความสำเร็จที่สุด ตกเป็นเหยื่อความสำเร็จของตนเอง

Scaling Isomorphically (การขยายโดยมีสัญฐานเหมือนกัน)

เราจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร – โดยใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการประมวลผลธุรกรรมนอกเชนสำหรับผู้ใช้งาน (users’s off-chain transaction) ในขณะที่ใช้เชนหลักเพื่อความมั่นคงปลอดภัย (secure settlement layer) Hydra คงความมั่นคงปลอดภัยระดับเดียวกับเชนหลัก และยังคงทำงานควบคู่กับเชนหลักอย่างหลวมๆ Hydra ไม่ต้องการฉันทามติระดับภาพรวม (global concensus) ทำให้ปรับให้เข้ากับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Hydra ยอมให้กำหนดค่าธรรมเนียมธุรกรรม (Tx Fee) และค่า UTXO ขั้นต่ำ อาจน้อยถึงระดับ 1-2 lovelace ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการทำธุรกรรมขนาดเล็กมากๆ (microtransaction)

ที่สำคัญที่สุด Hydra นำเสนอแนวคิด isomorphic state channel (แปลไทยน่าจะประมาณว่า ช่องทางที่สถานะเหมือนกัน) โดยการนำ ledger แนวเดียวกันมาใช้กับ ledger ที่ให้ผลแนวเดียวกันมาใช้ซ้ำบน off-chain ข้างเคียง ซึ่งเรียกว่า Hydra Heads โดยเฉพาะกรณีของ Cardano นี่หมายถึงสามารถใช้งาน native asset, NFT, Plutus script ใน Hydra Head แต่ละตัวได้

Isomorphism อนุญาตให้มีการขยายระบบโดยธรรมชาติ แทนที่จะเป็นแบบยึดติด

ธุรกรรมหลายอย่างที่ตอนนี้ถูกจัดการโดย main-chain หรือ applcation ที่ใช้งานบน main-chain จะได้ประโยชน์โดยตรงจาก Hydra เพราะว่ามันเข้าใจธุรกรรมและลายเซ็นที่มีรูปแบบเดียวกัน นี่ช่วยให้ลดอุปสรรคการเริ่มใช้งาน Hydra สำหรับผู้ใช้งานทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่สามารถนำโครงสร้างพื้นฐานการทดลองและการทดสอบของ Cardano ในการสร้าง wallet และ applcation ที่เชื่อมต่อกับระบบ layer 2

เรายังสามารถสร้าง Hydra Head โดยไม่ต้องใช้เงินในฝั่งของผู้รับ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ที่ราบรื่น (smooth user experience)

พิสูจน์แนวความคิด (proof of concept)

ทีมเริ่มใช้งาน Hydra Head protocol ระดับพื้นฐาน เพื่อพิสูน์แนวความคิด hydra-node

Developer preview จะพร้อมโชว์ในงาน Cardano Summit ปลายเดือนกันยายน 2564 ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาหรือคนที่สนใจ สามารถรัน hydra-node แบบ online! โดยจะเปิดใช้งาน Hydra Head ในวงจำกัดและเริ่มทดลองรับธุรกรรม ผู้ใช้จะได้เห็น working protoype ใน testnet เฉพาะกิจ รวมถึงจะได้ benchmarking และเอกสารการใช้งานขั้นต้นที่ Github repository ซึ่งจะยังไม่มีส่วนติดต่อผู้ใช้อย่าง wallet, ui

เรื่อง transaction per second (TPS) เป็นสิ่งที่ต้องพูดถึง มันยากที่จะบอกว่าแค่ไหนคือสำเร็จ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของ scalability บางคนให้คะแนนเครือข่ายจากการวัด maximum throughput ของ TPS ในขณะที่การวัดผลที่แบบดั้งเดิม (legacy system) ดูจะสมเหตุสมผลกว่า แม้จะสามารถการคาดการณ์ได้และสอดคล้องกันสูง (ตัวอย่างเช่นเครืองข่ายของ VISA) แต่มันมีประโยชน์น้อยสำหรับระบบที่มีการกระจาย (distributed systems) ทั้งนี้เป้าหมายแรกของเราคือ latency (ความหน่วง – ระยะเวลาที่ธุรกรรมได้รับการยืนยัน) เช่นเดียวกับคนอื่น เป็นอีกวิธีหนึ่งในการวัดความเร็วของธุรกรรมบนบล็อกเชนที่ใช้งานได้จริง ใน mainnet TPS น้อยที่สุดคือมี latency 20 วินาทีในหนึ่ง block นี่เป็นจุดเริ่มต้น

ในเลเยอร์ 2 อย่าง Hydra เป็นไปได้ที่จะใช้เวลาในการยืนยันธุรกรรมด้วยเวลาที่น้อยกว่า 1 วินาที

คำว่า 1 ล้าน TPS เคยมีคนใช้มาก่อน เป็นตัวเลขที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ และยังเป็นเป้าหมายที่ดูทะเยอทะยาน เป้าหมายสูงสุดของทุกระบบคือความยืดหยุ่นในการเพิ่มขีดความสามารถตามความต้องการ ปริมาณงานที่วัดใน TPS ต่อหัว Hydra เป็นเรื่องรองและส่วนใหญ่จะถูกจำกัดโดยฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ โดยหลักการแล้ว การเพิ่มจำนวน Hydra head ให้กับระบบจะทำให้ระบบโดยรวมรับปริมาณงานสูงได้

Hydra วิวัฒนาการตามกาลเวลา

ระยะสั้น IOHK จะพัฒนา hydra-node และ Hydra Head protocol จนกว่ามันจะกลายเป็นรากฐานที่มั่นคงและเป็นฐานที่มั่นคงสำหรับชุมชน (รวมทั้งทีมงาน IOHK) เพื่อสร้างแอพที่ใช้งานในโลกความเป็นจริง แอพเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากความเร็วและค่าธรรมเนียมที่ถูกมาก (low-to-no-cost) เรากำลังพัฒนาฟีเจอร์หลักอื่นๆ อย่างแข็งขัน รวมถึงการรองรับหลายหัวต่อ node การคงอยู่ (persistence) และส่วนขยายของ Head protocol

ระยะกลาง ประมาณ 6-12 เดือน ความก้าวหน้าขึ้นอยู่กับผลของการค้นคว้าและการทดลอง รวมทั้งข้อเสนอแนะจากชุมชนนักพัฒนา (developer community) IOHK กำลังค้นคว้าวิธีการเชื่อมต่อ Hydra heads หลายๆ แบบเพื่อเพิ่มการเข้าถึง layer 2 solution, การทดสอบว่าทำอย่างไรให้ integrate และใช้งาน Hydra ได้ง่ายขึ้น

หนึ่งในวิสัยทัศน์ระยะยาวอันน่าตื่นเต้น คือการพัฒนา Virtual Heads โดยการรัน Hydra Head protocol ข้างใน Hydra Heads อีกชั้นนึง นั่นจะเป็นการใช้งาน isomorphicism แบบเต็มที่ของ layer 2 solution ของ IOHK ซึ่งหากเป็นจริง มันหมายถึงความสามารถในการขยายขนาดไม่จำกัดตามทฤษฎี

ความยืดหยุ่นคือหัวใจของขยายและการเติบโต (scalability & growth)

แนวคิดที่ครอบคลุมสำหรับ Hydra คือการจัดหาโซลูชันการปรับขนาดเลเยอร์ 2 ที่เหมาะสำหรับ Cardano ซึ่งเป็นบล็อกเชนแบบ UTXO รุ่นที่สามที่สามารถรองรับสัญญาอัจฉริยะได้ Hydra จะช่วยลดต้นทุนในขณะที่เพิ่มปริมาณงานและรักษาความปลอดภัย

Hydra ลอกการทำงานของ main-chain ในขณะที่ลดแรงเสียดทานของผู้ใช้ แต่ก็ยังยอมให้มีความยืดหยุ่นของการมีค่าธรรมเนียม/โครงสร้างราคาที่แตกต่างกัน และข้อจำกัดด้านเวลาบน layer 2

ระบบที่ประสบความสำเร็จจะสร้างความสมดุลให้กับความต้องการของผู้ใช้ทุกคน IOHK ต้องการให้ ecosystem ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ระดับบุคคล องค์กร ผู้เชี่ยวชาญ และรวมถึงรายชื่อ DApps และผู้พัฒนาที่เพิ่มขึ้น

ด้วย Alonzo hardfork ทำให้ Cardano เริ่มก้าวต่อไปในฐานะ smart contract platform การใช้งานเทคโนโลยีอย่าง Hydra จะช่วยปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดของ Cardano ได้อย่างมาก และนำไปสู่การนำไปใช้ต่อไป

Source: https://iohk.io/en/blog/posts/2021/09/17/hydra-cardano-s-solution-for-ultimate-scalability/

Further reading/watching:

  • Hail Hydra!!! by Charles Hoskinson
  • Cardano’s Hydra vs Lightning Network: What scalability approach is best | Lex Friedman x Charles Hoskinson

TL:DR
– Layer 1 ที่เราใช้อยู่คือ Ouroboros
– Layer 2 คือ Hydra ช่วยให้ Cardano รองรับปริมาณธุรกรรมได้มากขึ้น/ไวขึ้น/fee ถูกลง
– ปัจจุบัน fee 0.16+ ADA ก็ว่าถูกประมาณหนึ่ง แต่เมื่อใช้งาน Hydra แล้ว fee อาจเหลือ 1-2 lovelace ซึ่งถูกมาก เหมือนให้ฟรี

Stake

Stake ADA ทำได้กี่รูปแบบ

  • February 21, 2021November 6, 2021

การ stake เหรียญทำได้ 3 รูปแบบ

  1. ทำผ่านกระเป๋าหลัก (Official wallet) ได้แก่ Daedalus และ Yoroi การ stake ด้วยการเป๋าหลักจะไม่มีการ lock เหรียญ เมื่อเราเลือก pool ที่จะ stake แล้วเราเปลี่ยนใจภายหลัง ก็สามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอ 15 วัน 30 วัน
    • Daedalus เป็น wallet ที่ใช้บน desktop ถ้าหากเจอบน Android หรือ iOS แสดงว่าเป็นของปลอม
      การใช้งาน Daedalus บน desktop มีการ download blockchain database ไว้บนเครื่องด้วย ซึ่งจะกินพื้นที่ HDD ค่อนข้างมาก (ณ วันที่ 21 ก.พ. 64 มีขนาด 7.12GB) ทำให้การเปิดใช้งานแต่ละครั้งจะกินเวลามาก
    • Yoroi (อ่านว่า โยรอย) มี 2 รูปแบบ mobile กับ Browser extension ที่ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว รับและส่งเงินได้คล่องตัวกว่า Daedalus
  2. Stake ผ่าน 3d party wallet อย่างเช่น AdaLite ก็จะคล้ายๆ กับใช้ official wallet
  3. Stake ผ่าน Exchange เช่น Binance ซึ่งโดยทั่วไป exchange จะให้ผลตอบแทนที่ล่อใจเรามากกว่าการ stake ผ่านกระเป๋าหลัก โดยอาจให้ผลตอบแทนถึง 1x% APY แต่ก็แลกมาด้วยการ lock เหรียญไว้ ระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งหากมูลค่าเหรียญตก เราจะทำอะไรไม่ได้เลยในช่วงนั้น

Daedalus wallet

Daedalus wallet
Daedalus wallet

Yoroi wallet

Yoroi wallet
Yoroi wallet
Locked staking on Binance
Locked staking on Binance

ทั้ง 3 แบบเท่าที่ทราบตอนนี้ใช้ network pool ของ Cardano เหมือนกันหมด
โดยแบบ 1 และ 2 เราสามารถเลือก pool ได้เองตามใจชอบ รายชื่อ pool มีให้หาในเมนูของทั้ง Daedalus และ Yoroi หรือจะใช้เครื่องมือช่วยอย่างเว็บด้านล่างนี้

  • adapools.org
  • pooltool.io
  • pool.pm
Stake

การ Stake เหรียญคืออะไร

  • February 19, 2021February 28, 2021

Stake คือการนำเหรียญไปฝากไว้เพื่อรับผลตอบแทนเป็นจำนวนเหรียญที่มากขึ้น มีลักษณะคล้ายกับการฝากประจำเพื่อได้ดอกเบี้ยหรือการซื้อกองทุนหรือหุ้นที่มีการจ่ายปันผล

การ stake จะมีรอบการจ่ายเป็นงวด เช่น ADA จะจ่ายทุกๆ EPOCH จบ (ทุกๆ 5 วัน)

ผลตอบแทนที่ได้รับอาจเรียกว่า rewards (รางวัล), interest (ดอกเบี้ย), yield, dividend (ปันผล)

การ stake อาจมีการ lock เหรียญหรือไม่ lock เหรียญ เช่น ADA โดยปกติไม่มีการ lock เหรียญ เมื่อ stake แล้ว เราสามารถโอนเงินไปยัง wallet อื่นหรือเข้า exchange ได้ โดยไม่ต้องรอเวลาในการ unlock โดยผลตอบแทนการ stake แบบปกติอยู่ที่ประมาณ 5.xx% APY (Annual percentage yield)

การ stake แบบ lock เหรียญ (Locked staking) เช่น ADA ซึ่งทำโดย exchange อย่างเช่น Binance ที่ให้เรา stake กับเค้าเพื่อหวังผลตอบแทน (21.79% APY) ที่มากกว่าการ stake แบบธรรมดา แต่ก็ต้องแลกกับการที่เหรียญถูก lock ไว้ระยะเวลาหนึ่ง เช่น 30 วัน 60 วัน 90 วัน

Stake แล้วอาจได้เหรียญอื่นเช่น Stake DOT ได้ LIT เป็นปันผล แล้วแต่ผู้ให้บริการจะกำหนด

stake and rewards
บน Binance ในส่วนของ Launch pool (Earn) ให้เรานำเงินมาวางไว้แล้วได้เหรียญอื่น เช่น Stake BNB > DODO หรือ Stake DOT > LIT

การ stake ทำให้เรามีเงินเยอะขึ้นหรือไม่?
– จำนวนเหรียญได้มากขึ้น
– มูลค่าอาจไม่ได้มากขึ้น ขึ้นอยู่กับมูลค่าในช่วงนั้นๆ เช่น ก่อน stake ADA ราคา 20 บาท เมื่อครบรอบ (5 EPOCH) ราคาอาจไปอยู่ที่ 60 บาท หรือ 15 บาท จะเห็นว่าด้วยเหรียญที่มากขึ้น ไม่ได้แปลว่าเราได้เงินบาทหรือ USD มากขึ้น

Categories

  • Cardano Update 3
  • Knowledge 4
  • Stablecoin 1
  • Stake 4

Recent Posts

  • Cardano Upgrade 24 มกราคม 2568
  • Shen, Reserve Coin ของ Djed
  • Hydra Heads ก้าวแรกสู่ Hydra ฉบับเต็ม
  • วิธีการ stake หลายๆ pool
  • Cardano RealFi
Theme by Colorlib Powered by WordPress